วันพุธที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2556

ปีแห่งเมตตา



 
เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2555 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทาน ส.ค.ส. ปีพุทธศักราช 2556 แก่ประชาชนชาวไทย เนื่องในโอกาสวารดิถีขึ้นปีใหม่มีความว่า

"ความเมตตาเป็นคุณธรรมนำความสุข
ช่วยปลอบปลุกปรุงใจให้หรรษา
ความกตัญญูรู้คุณผู้เมตตา
ทวีค่าของน้ำใจไมตรีเอย"

เรื่องของความเมตตาเป็นหลักธรรมข้อหนึ่งในพรหมวิหาร 4 เป็นหลักธรรมประจำใจที่จะช่วยให้เราดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างประเสริฐ บริสุทธิ์ และเป็นสุข ปีนี้พระองค์ท่านได้ให้พรและบทเตือนใจ ที่เน้น "เมตตา" ซึ่งเหมาะสำหรับสังคมปัจจุบันที่มี ความคิดแตกต่าง มีความต่างของคุณธรรมหลากหลาย จนคนดีต้องเข้มแข็งมากขึ้น เพื่อยืนหยัดสู้กับความไม่ถูกต้องได้อย่างไม่ทุกข์

เมตตา คือความปรารถนาให้ผู้อื่นได้รับสุข

ความสุขก็ย่อมเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา ความสุขเกิดขึ้นได้ทั้งกายและใจ เช่น ความสุขเกิดการมีทรัพย์ ความสุขเกิดจากการใช้จ่ายทรัพย์เพื่อการบริโภค ความสุขเกิดจากการไม่เป็นหนี้ และความสุขเกิดจากการทำงานที่ปราศจากโทษ เป็นต้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกอย่างต้องพอประมาณ บางอย่างก็ต้องไม่ไปติดยึดจนกลายเป็น ..สุขไม่เป็น กลับก่อทวีทุกข์มากกว่าเดิม

 
เมตตามีคู่ปรับสำคัญอย่างหนึ่ง คือ ความโกรธ ซึ่งความโกรธจะเป็นอุปสรรคที่คอยขัดขวางไม่ให้เมตตาเกิดขึ้น คนบางคนเป็นผู้มักโกรธ พอโกรธขึ้นมาแล้วก็ต้องทำอะไรรุนแรงออกไป ทำให้เกิดความเสียหาย ถ้าทำอะไรเขาไม่ได้เราก็มักจะหงุดหงิด งุ่นง่านทรมานใจตัวเอง ในเวลานั้นเมตตาหลบหายไป ไม่รู้ว่าไปซ่อนตัวอยู่ที่ไหน ไม่ยอมปรากฏให้เห็น ดังนั้นก็จะต้องเรียกสติมาเป็นตัวคุม เหมือนที่ว่า สติมา ปัญญาเกิด สติเตลิด อะไรๆดีๆก็หายไปหมด  อันนี้คงต้องหมั่นฝึกฝนฝึกจิตตัวเองให้มีช่วงเวลานิ่ง  สงบ ทบทวนตัวเองก็จะตามตัวเองทัน เหมือนเราที่แต่ละวันต้องส่องกระจกดูหน้าตาว่าเรียบร้อยหรือไม่ ก็ได้แต่เห็นของภายนอก ส่วนใจภายในนั้นมองไม่เห็นจากกระจก แต่เรารู้ตัวดี การส่องใจ  ต้องมาจากจิตที่คุมดีแล้วให้สงบนิ่ง หมั่นทบทวนตัวเองบ่อยๆก็จะตามทัน เวลามีเรื่องมากระทบ สติก็จะมากำกับทันที และไม่เร่าร้อน  เกิดความเข้าใจในสิ่งที่กระทบ ให้อภัย วางไว้ เมตตาก็จะเกิดโดยทันที เราก็ไม่ทุกข์ (อีกฝ่ายทุกข์เอง หุหุ)

ดังนั้นเราควรทำดีทุกครั้งที่มีโอกาส แม้จะเหนื่อย หรือยากลำบาก แม้จะมีคนที่ไม่เข้าใจ คิดว่าเราโง่บ้าง ขี้แพ้ไม่สู้บ้าง ก็อย่าไปหวั่นไหว......ใจเรารู้ และสุขเย็นเป็นพอ........ปีใหม่นี้ meepole เลยตั้งใจจะฝึกจิตให้มีเมตตามากขึ้น เพราะเวลาเห็นพวกมิจฉาจารย์ทำสิ่งที่ไม่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม คอรัปชั่นเชิงนโยบายหลายอย่าง สร้างภาพลวงให้พวกกรรมการที่มาประเมินคุณภาพมหาวิทยาลัยโดยตรวจตามเอกสารของมหาวิทยาลัยที่ตกแต่งสวยงาม คุณภาพจริงไม่ต้องพูดถึง ........เมตตาจะหาย สติตามไม่ทันปาก ปากจะเง็บๆ ถ้ามีคนมาถาม แต่ถ้ารู้เห็นเองใจจะเง็บๆ..สัตว์โลกเป็นไปตามกรรมจริงๆ
จงเป็นสุข..เป็นสุข....เถิด
 

อ้างอิง: พระธรรมปิฏก (ประยุทธ์ ปยุตโต  “ทำอย่างไรจะหายโกรธ