วันพฤหัสบดีที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2557

วัดเขาราหู


วันนี้พระอาจารย์พระธรรมวิมลโมลีไปเป็นประธานฝ่ายสงฆ์ในงานปิดทองฝังลูกนิมิตที่วัดเขาราหู ตามเวลาที่มีกำหนดการคือ 9.00 น. เป็นปกติที่พระอาจารย์จะไปก่อนเวลาเสมอ เป็นสิ่งหนึ่งที่ meepole เรียนรู้เรื่องความเป็นผู้ตรงต่อเวลา และไปก่อนเผื่อดูว่ามีอะไรไม่เรียบร้อยก็จะแนะนำเสมอ วันนี้link และ meepole  ท่านอานนท์ได้ติดตามพระอาจารย์ meepole ไปเพราะไม่เคยไปที่วัดนี้ ไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหน และรู้ว่าเป็นวัดเล็กๆในป่าเขา เลยตั้งใจจะไปร่วมทำบุญ และหากใครที่ได้อ่านหากอยู่ไม่ไกลก็น่าจะไปร่วมทำบุญกัน

ไปถึงก่อนเวลาเล็กน้อย ไปถึงก็ลงรถที่จอดหน้าโรงฉัน เจอป้ายติดโดนใจ แสดงว่าท่านเจ้าอาวาสเอาใจใส่สุขภาพมาก "ไม่เอาผงชูรส" ไปวัดมามากมายแต่ไม่เห็นที่ไหนกล้าที่จะทำเช่นนี้ เลยเอามาลงเป็นตัวอย่าง .....เผื่อใครจะเอาเป็นแบบอย่าง
 
บน: มองหาโบสถ์ จะเจอแหงนหน้าขึ้นก็ตกใจ โบสถ์อยู่บนเขาโน่น
 โบสถ์เก่า
 
กรรมการวัดได้พาพระอาจารย์ขึ้นทางลัด ใกล้กว่าแต่เสียวไส้ชันในช่วงสุดท้าย  (จริงๆหากทำเป็นกระไดไว้ด้านข้างกว้างสักเมตรตลอดแนวค่อยๆไต่ขึ้นไปก็จะดี) มันก็ชันพอควร คนสูงอายุคงลำบากหน่อย ขากลับเดินลงทางปกติที่เป็นถนน..ทิวทัศน์ที่เห็นสวยงามไม่แพ้ทางเหนือ วันนี้อากาศเป็นใจเย็นยะเยือก ลมพัดมาก็เย็นสบาย
 คุยกับกรรมการวัด
 
 

 
พระธรรมวิมลโมลีกราบถวายความเคารพ พระครูสุคนธวิศิษฏ์(หลวงพ่อเพริ้ม โกสิโย) หรือที่ชาวบ้านเรียกท่านว่า พ่อท่านเอ็น หรือ หลวงพ่อเอ็น  อายุ 82  ปี เป็นเจ้าอาวาส

รอจนประมาณ9.30 เศษประธานฝ่ายฆราวาสจึงมา มาสายกว่าประธานฝ่ายสงฆ์ สวดพระพุทธมนต์เสร็จก็เป็นพิธีเปิด แล้วพระอาจารย์ก็ไปเปิดผ้าที่ปิดลูกนิมิตแต่ละทิศพร้อมปิดทอง
  รองผู้ว่าราชการจังหวัดถวายจตุปัจจัย

 หน้าโบสถ์



สายสิญจ์โยงแปลกดี ผูกน้ำเต้า ผ้ายันต์ ผลไม้

 
meepole นั่งที่เดิมเอาปัจจัย 500 บาทใส่ตู้ทำบุญดอกไม้ธูปเทียน เขาทำที่เสียบเงินได้น่ารักมาก เอาไว้เสียบบนกองทราย  และอีกส่วนเป็นใบเงินใบทองเอาไว้ปักทางเข้าโบสถ์ meepole ก็เอาเงินเสียบ
 
ตอนที่นั่งสวดมนต์ตั้งใจว่าจะเอาปัจจัยใส่ซองร่วมถวายบูรณะโบสถ์ แล้วคิดในใจว่า เอ แล้วจะเอาเงินที่ตั้งใจทำบุญไปถวายใครหรือใส่ไว้ในตู้ดี คิดๆแล้วเปลี่ยนใจเพราะไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี  เลยเอาเงินเสียบใส่ไม้ปักไว้ก็แล้วกัน ขณะนั่งเสียบไม้ ก็ได้ยินเสียงประกาศว่า ใครต้องการผ้าปิดลูกนิมิตลูกเอกหน้าพระพุทธให้ยกมือ meepole ก็ยกมือ เขาก็ถามว่าจะทำบุญเท่าใด meepole ก็ตั้งใจจะถวายอยู่แล้วแต่บอกขอถาม link ก่อน เพราะไม่แน่ใจว่าเขาเอาเงินมาเท่าใด กลับมาตอบก็ถวายไป x,xxx จริงๆตั้งใจจะถวายมากกว่านั้น แต่นี่เอาหมดตัว link หุหุ ก็เลยได้ผ้ามงคลติดมาด้วย เขาให้ไปถวายเงินกับหลวงพ่อ เองและรับผ้าจากหลวงพ่อ ก็ให้ link ไปถวายและรับผ้า นับว่าความตั้งใจที่จะได้ทำบุญในการบูรณะโบสถ์ก็สำเร็จดังตั้งใจ
 
 
ติดทองลูกนิมิต
 
เด็กนักเรียนมารำน่ารักมาก
 meepole อุทิศบุญให้บรรพบุรุษ ผู้ที่เสียสละชีวิตเพื่อแผ่นดินในการชุมนุม เจ้ากรรมนายเวร เจาะจงให้ถึง “สุขเกษม” ด้วย ได้รับส่วนบุญสิ้นเวรต่อกันเทอญ
ท่านที่เข้ามาอ่านโปรดอนุโมทนาบุญร่วมกันได้เลย ขอให้สุขภาพแข็งแรง เจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไป

วันจันทร์ที่ 20 มกราคม พ.ศ. 2557

คำทำนายอนาคตชาติ

 
คำทำนายนี้ เพื่อนส่งมาให้ ชัดเจน...More than I can say!!

วันอังคารที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2557

ของกินแบบสบายๆที่สิงคโปร์ (2)

ตอน meepole เพิ่งเดินออกจากสนามบินเห็น  cable car จอดอยู่มีโฆษณาที่ท่องเที่ยวน่ารักสดใสดี

(ต่อ) ตอนเดินใน China town อยู่ดีๆ ไม่มีปี่ขลุ่ยบรรเลงก่อน ฝนก็โครมตกลงมา โชคดีที่ร้านแถบนั้นมีลักษณะเป็นแบบเวิ้งหลังคาคลุมตลอดทางเดินก็เลยยังเดินได้ แต่ก็ไม่สะดวกเพราะเดินถึงถนนซอยก็ต้องผ่านฝนไม่มีหลังคา เจอเด็กฝรั่งอายุ ประมาณ 10 ขวบยืนถือร่ม เธอพาเราข้ามถนนเล็กๆไป

เดินผ่านหน้าร้านเล็กๆ ขายซาลาเปา กาแฟ และก็ของกินน่ารักในกระปุกแบบนี้ ไว้กินกะน้ำชากาแฟ เห็นคนขายมองหน้า meepole แบบแปลกๆ (ไม่เอ็นดู) เลยไม่ถามอะไรเขา

เดินกลับทางเดิมเริ่มหิวเลยแวะร้านริมทางเป็นร้านอาหารเจ อาหารตามสั่ง แบบมีรูปให้เลือก มีราคากำกับไว้ ราคาประมาณ 4.5-10 SGD

 นี่ชามใหญ่มาก  5.8 SGD (ตอนถือมาเสริฟ์แอบขำกะlink ว่าชามเหมือนชามที่ใส่อาหารเด็กๆบ้านเราเลย หุหุ) แต่link กินจนหมด
 
 ของmeepole ราดหน้าหมี่กรอบ ราดจนแฉะไม่กรอบแล้ว  4.5 SGD ถ้าไม่หิวก็ไม่กิน แต่ก็ใช้ได้นะ เพราะตัวที่เป็นหมี่กึนเจของเขาไม่มีกลิ่นสาปแบบบางอย่างในบ้านเรา
 
 นี่รังนก 8.5 SGD
 
บน : ซ้าย รูปรายชื่อขนมเยอะมาก มี 2 ด้าน  
ขวา นี่คือ soursop ที่สั่งมากิน อร่อยสุดๆ
           

 นี่เป็นความบังเอิญที่เดินผ่านเห็นคนกินเต็มร้าน 2 ห้อง มีล้นมาที่โต๊ะบนทางเิน และมียืนรอคิว ก็ถ่ายรูปไว้ เพราะไม่อยากรอคิว ตอนแวะกินอาหารเจ ก็ไปนั่งโต๊ะเดียวกับคนท้องถิ่นที่เป็นมิตรเขาชวนคุยดีมาก บอกเล่าแนะทุกอย่างกระทั่งร้านขนมนี้ พอกลับมา คนยืนคิวไม่มีเพราะค่ำแล้ว เลยลองเข้าไปนั่ง เขาเอารายการมาให้ อ่านชื่อรู้เรื่องหมด ยกเว้นรายการนี้ไม่รู้ว่าเป็นอะไร เขาอธิบายก็บอกว่าผลไม้ของเขาเอาก็เอาอยากรู้ ปรากฎว่าพอเห็นก็ร้องอ๋อ..soursop คือทุเรียนเทศ ไทยเราไม่เอามาปรุงทำอะไร นี่อร่อยมากยากจะบรรบายต้องไปทานเอง ขากลับลองหาซื้อน้ำกระป๋อง soursop ก็มีด้วย ไม่รู้ที่ไทยมีเข้ามาหรือยัง จะลองหาดูที่กทม. ถ้ามีเวลาไป
 
เดินทะลุ somerset 313 ไปอีกด้านถนน ปรากฎว่าแปลกใจอีก เจอคิวยาวมากอีก เลยแวะดูเพราะอยากรู้ว่าวัยรุ่นที่นี่เขากำลังนิยมอะไร..เป็น popcorn ที่มีสารพัดรสชาติและสารพัดคลุก เช่น กับถั่ว แอลมอนด์ และ nut อื่นๆ ราคาแล้วแต่ขนาดแก้วสวยๆที่เห็น แต่ตั้งแต่ 10 SGD ขึ้นไป ไอหยา!!
 
 
มื้อเย็นของอีกวัน มาเดินเฉียด orchard ที่นักท่องเที่ยวชอบมา shopping มาเพื่อซื้อรองเท้าแตะให้ท่านเจ้าคุณชูชาติ ที่ทำรองเท้าหาย ก็ได้แวะกินอาหารเกาหลี และญี่ปุ่นที่ติดกัน ราคาเหมือนไทย  5-8 SGD
 
 
 
บน ล่าง นี่เป็นร้านที่ซื้อของเขาแล้วและแบบชื่นชม packing ของเขามารู้ทีหลังว่าเป็นร้านขึ้นชื่อ ก็ happy นะ อร่อยดี ที่ชอบเพราะมีกุ้งและปลาด้วย
 
ข้างล่างนี่เป็นขนมของโรงแรม ราคาแพงแต่ความที่สนใจอยากรู้เพราะเขาจะทำทีละไม่กี่อันแล้วตั้งไว้ ที่สนใจคือรสชาติเป็นยังไง ที่เขากำลังโรยคือถ้่วตำจืดๆ จริงๆจะใส่รสชาติหน่อยจะดี มาก ก็ลองซื้อชิ้นละ 2 SGD
ทำเสร็จตั้งรอแบบนี้ จริงๆดูน่ากินเพราะแสงไฟมากกว่า
 
ข้างล่างชิ้นเล็กๆนี่เป็นวุ้น และขนมแป้งเหนียวๆ ชิ้นละ 1 SGD ทุกอย่าง เชื่อว่าบ้านเราอร่อยกว่าเลยไม่ลอง หุหุ
 
 
 
 นี่เจอที่สนามบินตอนขาออก เดินหาที่ฉันเพลให้พระท่าน พอท่านฉันเราก็ออกเดินสำรวจใกล้ๆ เจอร้านนี่ชอบอีก หุหุ ชอบที่เขาใช้ใบตองแทนพลาสติกหรือ aluminium foil  ของไทยเราถ้าขึ้นร้านหรู ก็ไม่มีใบตอง ร้านที่เห็นข้างล่างนี่ล่ะ ซื้อไปหลายอย่างเห็นอะไรก็ชอบกินไปหมด เลยอ้วนเอาๆ

 
 
 
บน นี่ก็เป็นข้อสังเกตุที่ meepole เห็นคือตั้งแต่ในเมืองจนถึงร้านในสนามบินก็จะมีขนมที่สอดไส้สัปรดกวน ในภาชนะสวยๆ และกระทั่งเป็นปี๊บก็มี ชุดนี้ก็เหมือนกัน pineapple ล้วนๆ

แถมที่ร้าน bread talk (อันนี้นอกสนามบิน) มีขนมปังที่ใช้ใบจากที่เราใช้ห่อขนมจากรองก้นขนมปัง ของเราในไทยใช้ ?? รอง รู้สึกดีนะที่ทำให้รู้สึกว่ายังเอาของธรรมชาติมาใช้ไม่ละเลย ไม่ว่าจะ feel green หรือไม่ แต่ก็ feel good :)

 




วันจันทร์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2557

meepole ไปเดินสิงคโปร์ (1)

 
การไปสิงคโปร์ครั้งนี้เป็นการไปที่สบายๆ ไม่เหมือนครั้งอื่นที่ไปที่ต้องไปบรรยาย หรือไปเสนองานวิจัย หรือไปคุยวางแผนงานวิจัย ครั้งนี้มีเป้าไปเพื่องานบุญตามคณะของพระอาจารย์ ไปร่วมพิธีเปิดอาคารใหม่ของวัดอนันตเมตตรัย และมีงานที่ได้รับมอบหมายพิเศษ ทำให้ไม่คิดจะไปเที่ยวที่ๆนักท่องเที่ยวจะต้องไปกัน เลยไม่ได้เข้มงวดเวลา และปล่อยให้การไปเป็นไปตามเวลาที่เหลือจากงานที่ต้องทำ จึงได้มีเดินทางโดยรถประจำทางของที่นั่น meepole ไปพักที่ Copthorne King's Hotel ก็ Ok ดี จองแบบ online 
และครั้งนี้ meepole ตั้งความหวังว่าจะเจอไอรีนและหลานสาวของเธอ ที่ครั้งนั้นเมื่อนานพอควรตอนเราไปสิงค์โปร์ครั้งแรก เธอมารับเราไปส่งที่มหาวิทยาลัยทุกเช้า (ตอนกลับกลับเองเพราะเวลาไม่แน่นอน) ตอนค่ำเธอจะมารับไปสวดมนต์ที่วัดอนันตเมตยารามแห่งนี้ทุกวัน คิดถึงเธอจึงตั้งใจจะ surprise  เพราะคิดว่าเธอต้องมาร่วมงาน


รวบลัดตัดความเมื่อเสร็จจากกิจของวัดเรียบร้อย meepole กับ link ก็กางแผนที่ที่ได้จากสนามบิน ออกศึกษาวางแผนว่าจะไปใหนที่ไกล้ๆ วันแรกก็เลยไป China town ซึ่งห่างจากที่พัก 15 นาทีหากเดิน หรือรถเมล์สาย 51 ก็สองป้าย ก็ไปรถเมล์ ลงเดินดูรอบๆ ตามที่เดินได้ ไม่มีเป้าหมาย ก็ด้วยความบังเอิญไปเจอร้านขายพวกกุนเชียง BBQ กุ้ง ปลา หมู เราก็เลือกซื้อกุ้งและปลา โดยไม่รู้อะไรนอกจากดูว่าน่าทาน มารู้ทีหลังจากคนที่นั้นว่าร้านนี้เป็นร้านที่ช่วงเทศกาลคิวจะยาวออกมาถึงนอกถนน อร่อย คุณภาพดี

เดินดูของเรื่อยๆ มีร้านที่ขายของเตรียมตรุษจีนสีแดงตาลายไปหมด ของราคาแพงกว่าไทย 2-3 เท่าทุกอย่าง ง่ายๆไข่ต้มฟองละ 18 บาท ที่นี่แปลก (เท่าที่เห็น) เวลาขายจะขายเป็นชุด เช่น รองเท้าซื้อ 2 คู่ ราคา... เสื้อ 3 ตัวราคา..วัส่วนวันที่สองไปเดินแถวcenterpoint เพราะท่านเจ้าคณะจังหวัดลืมรองเท้าที่วัด ในคืนแรกที่ไปสวด ก็หายไป เราเลยไปซื้อรองเท้าแตะถวาย ก็ทำให้มีเป้าของการเดิน เพราะไม่ได้คิดจะไปซื้ออะไรเลย ชีวิตก็มีของเกินพอแล้ว เหลือแต่ตอนนี้พยายามตัดออก เอาออก แจกจ่ายไปเรื่อยๆ การเอาเข้าส่วนมากจึงเป็นของกิน เพราะยังชอบของกินเล่นอยู่

บน ล่าง รถเมล์มาส่งแถวนี้ คนขับใจดีชี้ทางให้ด้วย ปีนี้ปีมะเมีย ก็เลยมีม้ามงคลตัวใหญ่ ขบวนยาวลอยอยู่กลางถนน
 
ล่าง นี่มาแถวร้านใน china town ตลอดย่านขายโคม มั้า กบ ปลาห้อยยาวเป็นพวงสีแดงมงคล  มีสับปะรดกระดาษลูกโตๆแขวนขายเยอะแยะ คนก็มาเดินซื้อกันมากพอควร
 

 
 
ล่าง เดินผ่านไปก็เดินถอยหลังกลับมา เพราะที่เห็นคือหัวมันเผา ขายโดยชั่ง  100 กรัม 1.30 SGD (1 SGD=30 บาท) ขายเป็นล่ำเป็นสันดี
 


บน นี่ล่ะร้านที่ขายดีมาก ซื้อเสร็จใส่ซองอย่างดี pack เรียบร้อย (พรุ่งนี้ค่อยถ่ายรูปมาใส่เพิ่ม) ขายอย่างต่ำที่ 3 ขีดประมาณ 16-20 SGD
 
ล่าง เห็นถนนนี่ก็ลองเดินไปดู โชคดีไปเจอร้านอาหาร ขนม ที่ขึ้นชื่อในย่านนี้อีก
 
พรุ่งนี้มาเขียนต่อ