วันจันทร์ที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2556

เข็มทิศ ทางชีวิต


ทางชีวิต


ทุกปีตั้งแต่เขียนบันทึกใน blog นี้เมื่อครบปีจะมีการทบทวนบันทึกสิ่งดีๆที่ได้ทำไป และสิ่งไม่ดีที่ได้ทำไปเพื่อทบทวนตัวเอง อะไรที่ไม่ดีจะพยายามปรับปรุง แต่บางเรื่องที่ยังแก้ไม่ได้เพราะไม่ถึงเวลา และยังต้องทำ แต่ทำอย่างมีสติ ก็จะยังคงต้องทำ..อะไรที่ดีก็ทำดีไปเรื่อย ๆ เพราะชีวิตต้องดำเนินไปด้วยความไม่ประมาท และเป็นประโยชน์  ทุกคนมีเป้าหมายชีวิตของตนเองที่ไม่เหมือนกัน และในบางช่วงชีวิตอาจมีการหมุนเข็มทิศให้เบนออกไปบ้างตามสภาพแวดล้อม สำหรับ meepole เกือบสิบปีมาแล้วที่เข็มทิศชีวิตที่ตั้งไว้ไม่เปลี่ยน และไม่คิดว่าจะต้องเบี่ยงเบนไปทางไหน เส้นทางสงบ เย็น เป็นประโยชน์ เป็นเป้าหมายที่เดินไป โดยใช้สติเป็นตัวกำกับ เส้นทางนี้ทำให้ชีวิตสงบ แม้บางขณะมีมารมาผจญ แต่นั่นเป็นสิ่งที่ซือฝูบอกว่ามันคือ “คู่บารมี” ที่ส่งมาเพื่อให้เราได้ฝึก ประเภท “มารไม่มีบารมีไม่เกิด” ว่างั้นเถอะ หุหุ บางเรื่องเราก็เข้าใจว่าเป็นเพียงวิบากกรรมหรือเศษกรรมที่ไม่ได้เป็นผู้ก่อ เราจึงไม่ได้มีความรู้สึกอะไรกับการกระทำของมาร “สุขเกษม” ที่มาผจญนัก นอกจากบางครั้งที่รู้สึกเห็นใจพวกเขาว่าช่างขยันก่อกรรมและต่อกรรมให้ทั้งตัวเขาเองและลูกของเขาเพราะเขาขวางทางบุญใหญ่ แม้ว่าจะทำไม่สำเร็จ แต่กรรมที่เขาก่อโดยที่เราไม่มีจิตที่รู้สึกโกรธเขา แต่สงสารพวกเขาที่ชีวิตพวกเขาอยู่ในกองกิเลส แล้วมันสะท้อนกลับไปยังผู้นั้นตลอดเวลาอนาคตของพวกเขาถูกกรรมกำหนดโดยกรรมที่พวกเขาเคยก่อไว้กับแม่ จะส่งต่อไปยังลูกเขา หลวงพ่อในป่าบอกไว้ว่า “อนาคตข้างหน้าของพวกเขาน่าสงสารนัก เมื่อถึงเวลานั้นอกุศลกรรมจะจัดสรรทุกอย่างเอง ...” เพียงแค่คิดก็หนาวแทน

ในชีวิตของทุกคนย่อมมี มาร คืออุปสรรคต่างๆ มาให้เราต้องสะดุดเสมอ ขอเพียงเรามีความตั้งใจ แน่วแน่ ที่จะดำเนินชีวิตไปในทางที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม ทำสิ่งถูกต้อง มีธรรมะเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ จะไม่มีอะไรมาทำอะไรได้เลย พยายามประคองจิตใจให้ดำเนินชีวิตไปอย่างปกติสุขทุกวัน มีสิ่งมากระทบ ก็จะไม่กระเทือน รับทุกอย่างที่เข้ามาในชีวิตอย่างเป็นปกติ ยิ่งหากได้มีเวลาฝึกจิตให้วาง และว่าง ก็จะเป็นผู้ที่ประคองสติให้รู้ตัว รู้เท่าทันและเผชิญกับทุกปัญหาที่เข้ามาอย่างไม่ทุกข์ เพราะจริงๆไม่มีใครทำอะไรเราได้ ตราบเท่าที่เราไม่ทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ไม่มีอะไรในโลกนี้ในการที่ได้เกิดมาเป็น คน/มนุษย์จะสำคัญมากไปกว่าการทำตัวเองให้ดี ทำสิ่งที่ดี และถ่ายทอดความดี แค่นี้ก็คุ้มค่า แต่หากเกิดมาเพื่อเบียดเบียนเอาแต่ คิด/ทำแต่สิ่งชั่ว ถ่ายทอดเรื่องชั่วไปยังรุ่นลูก อันนี้ก็น่าสมเพช/น่าสงสารที่ได้เกิดมาเป็นคนเฉพาะร่างกาย ..จริงๆแล้วคนได้ชื่อว่าประเสริฐกว่าสัตว์เดรัจฉานก็เพราะเรารู้ผิดชอบชั่วดี มีความละอาย สามารถที่จะฝึกตนให้สู่เส้นทางที่มีธรรมะเป็นที่ยึดเหนี่ยวและประคองชีวิต



ปีใหม่นี้ก็ได้แต่หวังว่า ชีวิตที่เหลือของแต่ละคน ไม่ว่าจะมากหรือน้อย คงตั้งเข็มทิศชีวิตที่เหลืออยู่ไปในเส้นทางที่ถูกต้อง เพื่อให้ชีวิตที่ดำเนินไปจะได้มีระหว่างทาง/ปลายทางที่ สุข สงบเย็น เป็นประโยชน์ คุ้มค่าที่เกิดเป็นสัตว์ประเสริฐจริงๆ

วันเสาร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2556

ต้อนรับสมณศักดิ์พัดยศ พระธรรมวิมลโมลี (3)

จากกรุงเทพ...(ตอนที่แล้ว) วันที่ 8 ธันวาคม พระอาจารย์พร้อมคณะก็เดินทางกลับมา โดยมีการจัดเตรียมต้อนรับพัดยศอีกครั้งแบบเรียบง่าย มีการจัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์เพื่อเป็นสิริมงคล (แต่ไม่ได้มีงานฉลองพัดยศ) ถวายภัตตาหารเพล ก็เสร็จพิธี

บน จนท.สนง วัฒนธรรมมาช่วยจัดเตรียมของล่วงหน้า
 
เช้าวันที่ 8 พระภิกษุหลายสิบรูปไปรับพระธรรมโมลีที่สนามบิน
ล่าง ระหว่างรอเวลาในห้องรับรอง
 
 
 
 
ล่าง พระสงฆ์ทั้งหลายมารอรับขบวนที่หน้าประตูทางเข้าวัด
 
ล่างขวา พระธรรมวิมลโมลี เข้าวัดแล้ว ไปกราบอดีตเจ้าอาวาส พระเทพรัตนกวี และ
พระเทพสิทธินายก
ล่างซ้าย กราบนมัสการพระโพธิพุทธคยานุสรณ์ และพระมุจลินทรนาคราชานุสรณ์
 
 
ล่าง เข้าสู่พระอุโบสถ
 
 
ล่าง หลวงพ่อท้วม เมตตามามุทิตาด้วย และมีหลวงพ่อจิตต์ผู้เป็นพระคู่สวด และท่านถาวร ที่นับถือเสมือนพระพี่ชาย















 บน พระธรรมวิมลโมลี บูชาพระรัตนครัย



 
 
บน-ล่าง ถวายเทียนแพรแด่พระเทพพิพัฒนาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัด ที่พระธรรมวิมลโมลีเคารพรักอีกรูปหนึ่ง
 







 
 
ล่าง ฆราวาสทั้งหลายมาร่วมขอถ่ายภาพเพื่อเป็นสิริมงคล
 
 
 
 
ท่านวุฒิ (พระครูวิสุทธิวุฒิคุณ) เจ้าภาพเป็ดอบ
meepole เป็นเจ้าภาพ เมี่ยงปลาไฮเทค เขาเอารถมาอบกันที่วัดเลย (แต่ต่อไปจะไม่สั่งแล้ว เพราะช้า เกือบไม่ทันเพล)
 
ท่านทิม ท่านเหมี่ยว (สั่งงานตลอด หุหุ)
 
 
ขนมครกชาววัง มาตั้งแต่เช้า ท่านเจ้าอาวาสวัดเขาพระอานนท์เป็นเจ้าภาพ 
ส่วน meepole เป็นเจ้าภาพ ข้าวเม่าทอด 400 ลูก ขายดีมากหมดอย่างรวดเร็ว (กินฟรี)
ดร.ติ่งและคณะ เอาแกงส้มกุ้ง และโรตีกรอบมา
และมีอาหารอื่นๆอีกหลากหลาย ที่หลายๆคนเอามาร่วมกันเป็นเจ้าภาพ
 
 
งานนี้ทุกคนมีความสุข ปิติ อิ่มท้อง อิ่มบุญ อนุโมทนาบุญร่วมกันนะเอย



วันพฤหัสบดีที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2556

พระธรรมวิมลโมลี (สงคราม อสิญาโน) เลื่อนสมณศักดิ์ (2)

คนที่มารอเข้าเฝ้า และมาร่วมพิธี รอด้านนอกมากมาย

เนื่องในโอกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวาคม 2556 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานสถาปนา เลื่อนและแต่งตั้งสมณศักดิ์พระเถรานุเถระ ประจำปี 2556 จำนวน 71+1 รูป พระสงฆ์เข้ารับ ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง

 วันที่ 5 ธันวาคม 2556

 เวลา 12.30 น. ได้ฤกษ์เวลาดี พระอาจารย์ออกจากวัดใหม่ยายแป้น โดยมี คุณพิศิทธิ์ meepole และ link ติดตามไปด้วย เพื่อทำหน้าที่ต่างๆกันไป ถ่ายภาพ รอรับผ้าไตรจีวร พัดยศ สัญญาบัตร และอื่นๆ ลูกชายคุณสกลเป็นพลขับให้

 เมื่อไปถึงรถเข้าด้านในได้ช่วงหนึ่งแล้วต้องลงเดินเข้าไปชั้นใน พลขับก็เวียนรถไปจอดด้านนอก บรรยากาศด้านหลังพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เต็มไปด้วยพระเถระและคณะศิษย์ ผู้ติดตาม และข้าราชการทั้งสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และสำนักพระราชวัง โดยเฉพาะช่างภาพทั้งมืออาชีพที่มีกล้องขนาดใหญ่เลนส์ยาวมากข่มเราได้มากเลย ชอบบังด้วยเพราะช่างภาพนี้ตัวใหญ่ทั้งนั้นต้องแบกรับน้ำหนักกล้อง meepole ต้องคอยหลบหาช่องตอนถ่ายภาพ ดังนั้นภาพที่ได้จากที่นั่น ผ่านการมุด ลอดตามช่อง ปีนบนกระได (ยังโดนตามมาบัง) meepole ต้องคอยหลบระวังทั้งพระไม่ให้เบียดหรือชนท่าน และก็คอยหลบช่างกล้องอีก ส่วน link สบายหน่อยคลุกวงในได้ และคอยรับของต่าง ๆ จากพระอาจารย์

ตอนมาถึงพระเถระยังมาไม่กี่รูป และค่อยๆทะยอยมาเรื่อยๆ
 
 พระเถระแต่ละรูปเมื่อมาถึงต้องลงทะเบียนที่โต๊ะ รับหมายเลขประจำตัว (พระอาจารย์หมายเลข ๖ ) ซึ่งเจ้าหน้าที่จัดลำดับเลขต้น ถวายพระเถระชั้นผู้ใหญ่ที่ได้รับเลื่อนเป็นพระราชาคณะเจ้าคณะรองชั้นหิรัญบัฏ หรือรองสมเด็จ 2 รูป ตามด้วยพระราชาคณะชั้นธรรม ชั้นเทพ ชั้นราช และสามัญ รวมทั้ง 2 นิกาย ส่วนหมายเลขสุดท้าย เป็นพระธรรมทูตสายต่างประเทศที่ได้แต่งตั้งใหม่ (พระราชาคณะชั้นสามัญ)....
 

 
ของที่เตรียมถวายพระเถระที่มาในปีนี้ ปีนี้มีพระพุทธรูป 2 องค์ (องค์หนึ่งเป็นของท่านเจ้าคุณธงชัย อีกองค์ของวัดไร่ขิง งามมาก นำมาถวายพระเถระทุกรูป)
 
ล่าง: ระหว่างรอเวลา และรอพระเถระ ก็มีการทักทาย ถ่ายรูปกัน ใครเป็นใครก็ดูกัน
 
 
 
 







 
 

บน: พระธรรมวิมลโมลี สนทนากับ
นายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์  ผอ.สนง.พุทธศาสนาแห่งชาติ

ล่าง: พระเถระรูปสุดท้ายที่เป็นรูปแรกเพิ่งมาถึง หลังจากที่คอยมานาน (โปรดสังเกตุส่วนหนึ่งของตากล้อง ขณะรอ ยังมีอีกมากอยู่เลยออกไปด้านขวา)
บน: ในที่สุดพระเถระก็มาครบ พระอาจารย์รูปที่ (หกจากขวา)




 

บน-ล่าง พระธรรมวิมลโมลี รับผ้าไตรพระราชทานจากตัวแทนพระองค์




 
 

ภาพนี้ meepole ปีนไปบนกระไดขั้นที่ 4 แต่ยังไม่วายโดนตากล้องตัวใหญ่ๆ บังจนได้ หุหุ

 
 
บน: เมื่อรับผ้าไตรแล้ว เวียนไปรับพระพุทธรูป 2 องค์ จากวัดไร่ขิง และจากวัดไตรมิตร ที่นำมาถวายพระเถระทุกรูปที่รับสมณศักดิ์ปีนี้  71+1 รูป ตรงนี้ที่แต่ละรูปต้องมีลูกศิษย์ หรือต้องมอบหมายบอกจนท.คนใดคนหนึ่งที่ท่านคุ้นเคยช่วยเป็นธุระรับของจากท่านนำไป ของพระอาจารย์มีคนช่วยมากกว่าของถวาย เพราะลูกศิษย์ที่ได้รับมอบหมายยังไม่ทันรับ ก็มีจนท.ที่สนิทกับพระอาจารย์รีบเข้ามาช่วยรับ ตอนหลังเลยต้องตามหากัน
 
เมื่อทุกรูปรับของที่ต้องถวายจนครบแล้วก็ต้องเตรียมตัวเข้าซักซ้อมการรับพัดอีกครั้งในพระอุโบสถ ท่านก็เข้าไปสักครู่ ระหว่างนั้นพวกชาวเราทั้งหลายก็ได้พักสายตา เดินไปมาในที่จำกัด มองคน มองทัศนียภาพที่สวยงามในบริเวณนั้น เมื่อท่านเสร็จออกมา ท่านก็เดินไปถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ตามที่ช่างภาพและลูกศิษย์ลูกหาขอถ่ายกัน


 
ล่าง:เป็นภาพหลังจากรับพัดยศ และเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระบรมโอรสาธิราช เรียบร้อยแล้ว ก็ออกมาเตรียมตัวกลับ
(อันนี้ก็เฉพาะพระเถระที่ได้รับนิมนต์เท่านั้น เพราะพระเถระที่รับพัดยศ และสัญญาบัตร แต่ไม่ได้รับนิมนต์ให้เจริญพระพุทธมนต์ก็จะกลับออกมาก่อน ก็ถ่ายภาพกับลูกศิษย์ตั้งแต่ฟ้าสว่างอยู่ น่าจะประมาณ  18.00 น.
 
บน: พระธรรมวิมลโมลี กับพระพรหมวิสุทธาจารย์
 รองสมเด็จรูปใหม่ วัดเครือวัลย์ 

ถ่ายภาพแรกกับศิษย์ที่ไปร่วมงาน
ล่าง: นายอภิชาติ สุขัคคานนท์ อดีตประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ถือพัดยศ


ล่าง: รอคอยรถมารับ ครั้งนี้รอนานหน่อยเพราะรถต่อคิวยาวมาก อันนี้เป็นความสามาถเฉพาะตัวของพลขับจริงๆที่ต้องหาจังหวะ
 
 
โชคดี มีรถตู้เจ้าคุณฉ่ำ (พระเทพกิตติเวที วัดเบญฯ) มาก่อนคุณพิศิทธิ์จึงไปก่อน  ไปเตรียมงานต่อที่วัดใหม่ยายแป้น ซึ่งเป็นพิธีต้อนรับพัดพระราชทาน ตามธรรมเนียมประเพณีปฎิบัติ
 
ตอนต่อไปเป็น พิธีต้อนรับสัญญาบัตร พัดยศ