วันศุกร์ที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

เที่ยวพม่าแบบบ้านๆ 6: พระธาตุอินทร์แขวน 3

ภาพชีวิตบนเส้นทางสู่พระธาตุอินทร์แขวน

ยามเช้า ผู้มีศรัทธานำถาดอาหารมาบูชาองค์พระธาตุ


การเดินทางสู่เป้าหมายหนึ่งๆ อย่าเร่งรีบมากนักควรต้องมีการเก็บเกี่ยวชีวิตระหว่างเส้นทางด้วย มันเป็นกำไรชีวิตที่ได้เรียนรู้เพิ่มขึ้น เพราะเราอาจไม่มีวันได้กลับไปที่นั่นอีก  หรือแม้เราอาจได้กลับไปมันก็อาจไม่เหมือนเดิม...วันเวลาที่ล่วงไปย่อมนำการเปลี่ยนแปลงมาเสมอ
ดังนั้นเห็นอะไรก็บันทึกในความทรงจำ แต่ meepole ก็เริ่มแก่แล้ว เลยมีที่เก็บในสมองเหลือน้อย ลืมง่ายอีกตะหากเลยต้องพยายามเขียนเป็นบันทึกไว้

รูปพระธาตุอีกองค์ที่ตามตำนานว่าไว้ว่าไม่ไช่ก้อนหินรูปลักษณะที่ต้องการ

อันนี้ไม่แน่ใจว่าแม่ชียืนทำอะไร เพราะมีเสียงคล้ายท่องอะไรตลอดเวลาแต่ไม่น่าจะสวดมนต์

แม่ชีมาเดินรับบริจากที่ข้างรถตรงบริเวณที่เป็นจุดจอกพัก

บน  ปืนของเล่นทำด้วยไม้ไผ่ ที่เด็กไทยคงไม่เล่น ไม่ทันสมัย ของเขาน่ารักมาก
ซ้าย ล็อตเตอรี่
 
ช้าย เด็กขายนกหวีดเสียงดัง ทำด้วยไม้ไผ่ ใช้ได้ประมาณ 10 วันลูกโป่งยืดขาดเป่าไม่ดัง
ขวา ร้านขายยาดอง สมุนไพรต่างๆ แต่เราอ่านไม่รู้เรื่อง
 
บนซ้าย ชีวิตที่แบกเข่งยกของเดินสวนขึ้นลงตลอด  ขวา แผงขายรองเท้าแตะสานน่ารักดี
ผลไม้แช่อิ่มชุบพริกป่น ดูคล้ายน้ำพริกเผา ไม่รู้อร่อยตรงไหนนะ แต่เห็นแล้วคิดว่าคนพม่าคงชอบกินเผ็ด
 
 
ซ้าย หนุ่มขายของทอดกินเล่น เตาเล็กๆ กับตะแกรงไม้ไผ่สาน แค่นี้ชีวิตก็อยู่ได้
ขวา หนุ่มน้อยกับข้าวโพดต้มแล้วใส่ถุงใหญ่มานั่งวางขาย ง่ายๆดี
แผงขายผลไม้จัดเป็นถาดๆ เราก็อุดหนุนร้านนี้แหละซื้อส้มตักบาตร
 
ผลไม้แช่อิ่มที่คนพม่าคงชอบมากเพราะมีวางขายหลายจุด
ล่างขวา ยาเส้นขายกันเป็นมัดๆ
 

 
แผงขายแว่นน่ารักดี
 

 
ร้านขายของที่ระลึกเล็กๆ สารพัด
 
ผัดหมี่ และขนมจีน (ไม่ค่อยเหมือนของไทย น้ำราดใสกว่า)
 
บนซ้าย กระสอบถ่านที่จำเป็นสำหรับร้านอาหาร
บนขวา สาวน้อยกับขนมคล้ายๆลอดช่องแต่ไม่หอมกะทิแบบไทยๆ แก้วละ 200 จั๊ด
 
 
 หนุ่มกับการรอคนจ้างแบกของ ประมาณ 1000-2000 จั๊ด
 
หนุ่มน้อยใส่ชุดทันสมัยไม่นุ่งโสร่งคงกลัวหลุด หน้าทาแป้งทานาคาขาวครีมๆวอก
 
บน เบื้องหลังการจัดการขยะบนพระธาตุ ถาดอาหารที่บูชาแล้วจะถูกเก็บมารวมทิ้งใส่ขยะ มีหนุ่มสาวช่วยเก็บกวาดใส่เต็มถังพลาสติก แล้วมีหนุ่มๆเอาไม้ไผ่สอดที่หูถังหามแบกกันไปรวมๆ คิดว่ามีรถมารับไปอีกทอด
 
 
 
สาวพม่าฝาแฝดมาเที่ยวที่นี่น่ารักดีเลยขอถ่ายรูป
 
 

วันพฤหัสบดีที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

วัดพระพุทธบาทศรีสุราษฎร์

ไปพม่ายังเขียนไม่จบ แต่ meepole ยุ่งมากจะเข้ามาเขียนต่ออีก วันนี้ขอลงรูปวัดพระพุทธบาทศรีสุราษฎร์ก่อน เพราะเพื่อนพาไปมาเมื่อวาน และเห็นว่าควรแก่การบันทึกเพื่อให้ผู้มีศรัทธาและมีวาสนาได้ต่อบุญจะได้เข้ามาอ่านแล้วไปเยือน กราบสักการะเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตสักครั้งหนึ่ง

พระประธานในพระอุโบสถเปิด
 
วัดนี้อยู่ที่อำเภอกาญจนดิษฐ์ สุราษฎร์ธานี ไม่ไกลจากตัวเมือง ไปไม่ยากเพราะมีป้ายบอกทาง ชาวบ้านเรียกว่า พระพุทธบาทวัดเขาต่อ ตั้งอยู่บนเขาต่อ มีรอยพระพุทธบาทโบราณ มีบันไดทางขึ้น 244 ขั้น (แต่ที่คุณแอ๋วบอกคือ 344) เป็นพระพุทธบาทที่มีลักษณะถูกต้องทุกประการ โดยหน่วยศิลปากรที่ 8 ได้สำรวจเมื่อ 17 สิงหาคม 2519 ขนาดกว้าง 47 เซนติเมตร ยาว 145 เซนติเมตร ลึก 80 เซนติเมตร กรมศิลปากรยืนยันมีลักษณะและขนาดใกล้เคียงกับจังหวัดสระบุรีพระพุทธบาทนี้จึงเป็นรอยพระพุทธบาทแห่งที่ 2 ที่ปรากฏขึ้นในประเทศไทย พุทธศาสนิกชนจึงควรช่วยกันทำนุบำรุงรักษาไว้ให้ยั่งยืนอยู่ชั่วกาลนานต่อไป

ที่นี่ยังมีเรื่องราวที่ต้องไปพบประสบด้วยตัวเองทั้งจากการไปอยู่พัก และปฎิบัติธรรม ขึ้นไปไม่ลำบาก ไม่ทันเหนื่อยก็ถึง แต่เมื่อวานที่ไปอากาศร้อนจัด ไม่ได้เตรียมหมวกไป แต่ไม่เป็นไร ตอนนี้มีการสร้างมณฑปครอบพระบาทแล้วสวยงาม เข้าไปด้านในอากาศเย็นสบาย พื้นปูด้วยหินแกรนิต นอกนั้นทุกส่วนที่เห็นด้านในเป็นกระจกทั้งหมดจนถึงหลังคาฝ้ากระจก
ตอนนี้รอกำหนดวันที่จะยกบุษบกขึ้นเท่านั้น ใครผ่านไปมาก็แวะร่วมบุญและสักการะพระพุทธบาทได้เสมอ นำพวงมาลัยเล็กๆไปด้วย ไม่ต้องเอาแจกันอะไรให้วุ่นวายเพราะข้างบนเท่าที่เห็น ไม่ได้มีคนที่จะขึ้นไปเก็บกวาดทุกวันแต่ก็สะอาดไม่ค่อยมีฝุ่นอาจเป็นเพราะอยู่สูง และไม่มีใครไปสร้างขยะไว้

 
 
บน บันทึกการตรวจของกรมศิลป์
 
 
บน ล่าง ทางขึ้นที่แหงนจนคอตั้งฉากก็ไม่เห็นปลายทาง
 
 ล่าง อีกเกือบร้อยขั้นสุดท้าย ที่ค่อนข้างชัน อันนี้ห้ามหยุดคิดอะไร นอกจาก..ขึ้นต่อไปๆ
 
บน ไกล้เข้ามาแล้ว อีกอึดใจ
 
บน มองเห็นในมณฑป สงบเย็น
 
ล่าง เพื่อนลงไปกราบไหว้พระพุทธบาท ขวามือคือส่วนหนึ่งของบุษบกที่รอทำพิธี
 
ล่าง แผ่นจารึกดิถีฤกษ์
 
 
ส่าง ที่เห็นลึกลงไป 80 ซม. คือรอยพระพุทธบาท
 
ล่าง ออกมายืนที่หน้ามณฑป มองจุดหมายที่จะลงไปอีกครั้ง รู้สึกถึงความต้องระมัดระวังและมีสติอย่างดี
 
 
 ศาลาพระแม่กวนอิม
 
ในมณฑปมีตู้เซฟอย่างดีให้ใส่ปัจจัยร่วมบุญ เคยมีตู้ไม้แต่ถูกงัดเอาเงินไปก็เลยเอาอย่างดีมาวางไว้ คนจิตหยาบทำแต่อกุศลกรรมมีกลาดเกลื่อน คนดีๆเลยต้องป้องกัน ตอนนี้ที่เห็นว่ายังขาดคือโต๊ะหมู่บูชา (จะเห็นในรูปที่ 7) ที่พระพุทธรูปตั้งบนเก้าอีั 3 ตัวชั่วคราว

วันพฤหัสบดีที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2557

เที่ยวพม่าแบบบ้านๆ 5: พระธาตุอินทร์แขวน (2)

พระธาตุอินทร์แขวน (2)


ยามเช้าก็มีคนสักการะมากมาย

พระธาตุอินทร์แขวน หรือ ไจ้ก์ทิโย ในภาษามอญ หมายความว่า หินรูปหัวฤๅษีมีลักษณะเป็นก้อนหินสีทองขนาดใหญ่ ตั้งอยู่บนหน้าผาสูงชันพระธาตุอินทร์แขวนนับเป็น1 ใน 5 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวพม่าต้องไปสักการะ และยังเป็นพระธาตุประจำปีจอ ที่คนเกิดปีนี้ต้องไปนมัสการสักครั้งหนึ่งในชีวิต

มีรายงานการสำรวจพระธาตุอินทร์แขวนอย่างเป็นทางการตามคำสั่งรัฐบาลพม่า เมื่อปี 2544 โดยคณาจารย์ด้านวิศวกรรมศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งกรุงย่างกุ้ง ร่วมกับเจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรน้ำ ได้ข้อมูลที่น่าสนใจคือ หินก้อนนี้เป็นหินแกรนิต น้ำหนัก 611.45 ตัน สูง 8.15 เมตร แต่มีจุดสัมผัส (Contact Area) เพียง 0.714 ตารางเมตร องค์เจดีย์หนัก 19.45 ตัน สูง 3.11 เมตร รวมก้อนหินกับเจดีย์หนักรวมกัน 630.9 ตัน
ความเชื่อของคนพม่า บอกว่าในชีวิตนี้เราควรขึ้นมาไหว้สักการะพระธาตุให้ครบ 3 ครั้ง คนเตินทางมาจากที่ไกลๆก็เลยมีการประยุกต์ไปไหว้ 3 ครั้งในทริปเดียวนี่แหละ จึงจะถือว่าได้บุญสูงสุด  ครั้งนี้ meepole ขึ้นไปไหว้พระธาตุ 2 ครั้ง เพราะหลังจากทานอาหารเย็นที่โรงแรม ก็ขอเข้านอนเพราะวันนี้ตั้งแต่ตี 4 แล้ว ตั้งใจมากราบนมัสการตอนกลับในช่วงเช้า

ของไหว้ที่นำมาถวายในยามเช้าเป็นถาดๆ
ในเช้าวันที่สอง เราตื่นกันเเต่เช้าราวตี 4 ออกมาก็เจอพระพม่าเดินบิณฑบาตพอดี ได้เตรียมผลไม้ไว้แล้ว แต่ทันทีที่จะตักบาตรก็มีเด็กพม่าโผล่ออกมาจากไหนไม่รู้มาขายข้าวกับกับข้าวที่ไม่น่าดูนักเพราะใส่ข้าวและกับข้าวในถุงกอบแกบโดยตรงและห่อเล็กมาก 1000 จั๊ด และเดินตามกวนข้างๆร้องบอกให้ซื้ออีกตลอด ซื้อของคนหนึ่งก็จะมีคนอื่นขอให้ซื้ออีก (แอบนึกถึงว่าเกือบเหมือนอินเดียเลยนะนี่) ได้ตักบาตรพระ 4 รูป เเล้วเดินเท้าเปล่าขึ้นสู่พระธาตุอีกครั้ง

อาหารที่นำมาถวายสักการะ วางตั้งเต็มไปหมด จะเห็นตู้ใส่เงินมากมายวางทั่วเกือบร้อยใบในบริเวณรอบๆนั้น และปลอดภัยไม่มีใครยก
  ยามเช้าเพิ่งตื่น นั่งเป็นกลุ่มๆ

 
มีทั้งคนที่ลงไปและขึ้นมาใหม่ เดินสวนกันขวักไข่ว
   ขณะที่เดินขึ้นไปก็มีคนเดินสวนลงมาเยอะมาก เขาตื่นเช้ามาก คงไหว้พระธาตุแล้ว เราเดินตั้งแต่ยังไม่สว่าง ถึงข้างบนก็ยังมืดอยู่ เห็นคนตื่นบ้างนั่งๆนอนๆบ้าง หลายอิริยาบถ เด็กๆก็สนุกสนานกับขาโจ๋  
เด็กๆประลองกำลังรถ
 เราเห็นคนถือถาดมีของบูชาอยู่เต็มถาดเดินมาเป็นระยะๆ เดินดูว่าเขาทำอะไรกัน ก็เลยเข้าใจว่าเอาไปไหว้บูชาพระธาตุมีวางไว้เต็มไปหมด แต่ของที่ใช้ไหว้ก็แปลกจากบ้านเรา ราคาเทียบกับคุณภาพของแล้วค่อนข้างแพง 3000- 5000 จี้ด/ ถาด
ทางลงไปตลาดด้านล่าง
link พาไปเดินที่ตลาดด้านล่างมีของกินขายพอควร และมีขายดอกไม้ซึ่งก็โก่งราคาอีก แข่งกันขายด้วยดูการขายแล้วทำให้ไม่อยากซื้อ เลยไม่ซื้อเพราะจิตตกกับวิธีการขาย เดินจนสุดถนนสายบน ไม่ลงไปอีกชั้น ก็กลับ ดูร้านน้ำชากาแฟ ท่องโก๋ตัวใหญ่ๆ ซื้อมาไหว้พระ และใส่บาตรอีก ไม่ได้ลองกินเองเพราะดูแล้วมันๆ

แผงร้านขายลอตเตอรี่


 กระดิ่งไว้แขนที่รั้วรอบพระธาตุ
 
พระออกบิณทบาต
 
ตลาดด้านล่าง มีของขายเยอะแต่ตั้งราคาสูงกว่าปกติอยู่
ข้าวเหนียวสีจัดกว่าบ้านเรา
บน ขนมคล้ายปลากริมบ้านเรา แต่อันนี้ไม่หอมเท่าและน้ำใส
 
 

นมัสการลาแล้วเดินกลับลงมา ระหว่างทางก็เห็นเขาวางขายคล้ายๆขนมปลากริมบ้านเรา link ลอง แก้วละ-300 จั๊ด เราไม่ชอบลอง

ท่อนไม้ไผ่ไว้ทำไม้เท้า
เดินลงมาครั้งนี้ได้คำตอบของสิ่งที่เห็นเมื่อวานว่าวางขายไว้ทำอะไร นั่นคือท่อนไม้ไผ่ ใช้เป็นไม้เท้าค้ำยันตัวขาเดินลงเพราะหลายช่วงชัน

เราแวะไปห้องอาหาร link ทำสติกเกอร์หรือบัตร ไม่แน่ใจหายไป เราเลยบอกว่าขอใช้กุญแจห้องแสดงแทน เขายอมเลยได้เข้าไปกิน รีบๆกิน เพราะส่วนใหญ่กินกันเสร็จแล้ว ก็กินเพื่ออยู่อีก เอากระเป๋าเคคืนห้อง เดินทางกลับลงมา คราวนี้ได้รถแบบไม่มีพนักพิง เราก็ไม่เข้าใจจริงๆไกด์สามารถรอรถได้ เลือกเอาคันที่มีพนักพิงซึ่งปลอดภัยกว่ามาก นี่หลายคนบ่น และไม่สะดวกในการยันตัวมาก เราแอบกระซิบ link ว่าไกด์ไม่น่ารักอีกแล้วอาแต่ทำเวลาซึ่งก็ทันอยู่แล้ว ไม่คำนึงความปลอดภัยสูงสุดของลูกค้า เพระท่านก็นั่งหน้าติดกับตัวรถท่านที่นั่งแถวแรกจะจับราวหน้าได้ แต่แถวสองลำบากหน่อย (งานนี้ -2)

ก็เหมือนเดิมลงมาได้ช่วงหนึ่งก็จอดรอรถที่สวนขึ้นมา คราวนี้รอนานหน่อย 20 นาทีเศษ ขาลงนี่เร็ว เสียวไส้เมื่อจ่อติดกับคันหน้า มีช่วงที่เขาหยุดชะลอให้คันหน้าทิ้งระยะห่าง ลงมาถึงท่ารถก็ขนของลงขึ้นบัสอีก เดินทางต่อ
เพิ่มคำอธิบายภาพผู้สูงวัยก็นั่งเสลี่ยงลงมาที่จุดจอดรถ จริงๆไม่ไกลนะ เพียงแต่ทางลาดลง อาจเดินไม่สะดวก  meepole  เดินเองเพื่อพิสูจน์ว่าวัยยังไม่สูงพอ

สิ่งที่คนเชื่อก็อาจไม่จำเป็นต้องพิสูจน์หาความจริงเสมอไป ว่าทำไมหินจึงตั้งอยู่ได้ตามที่มีข้อสันนิษฐานต่างๆทางวิทยาศาสตร์ ขอให้สิ่งนี้ได้เป็นศูนย์รวมใจ หรือที่พึ่งทางใจ ให้ความสุขกับการเดินทางแสวงบุญของผู้มีศรัทธาตลอดไปก็ดีแล้ว