วันอังคารที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

เก็บคราบน้ำมันอย่างง่าย และได้ผล

  by meepole

ความตั้งใจดีของประชาชนตาดำๆ มีสำนึกดีรับผิดชอบ พยายามกันมากกว่าผู้ที่มีหน้าที่ต้องรับผิดชอบตรง หรือพวกสั่งการ มากนัก..meepole อยากจะเขียนเสนอทางแก้ปัญหาเช่นกัน และบอกข้อเสีย (มากกว่า) ข้อดี ของการใช้สารเคมีสลายคราบน้ำมัน...เอาไว้สุดสัปดาห์อาจมีเวลาถ้างานหลักเสร็จ เพราะตอนนี้งานเข้าจน ตัวก็เป็นเกลียว หัวก็เป็นเกลียว... แต่หากใครอ่านเอาไปบอกต่อได้เลยว่าที่ดีมากให้ใช้ ปอ หรือนุ่น ฝ้ายในการดูดซับน้ำมัน ซับได้มากไม่แต่เฉพาะ crude oil แต่กระทั่ง film บางๆที่ลอย ก็เอาอยู่ คิดแล้วน่าระดมหมอนนุ่นเก่าๆที่ไม่ใช้ ถุงเท้าเก่าๆขาดๆ เอามาม้วนๆจุกใส่ หรือขอบริจาคเส้นใยที่เขาใช้เช็ดคราบน้ำมันเรือ สมัยก่อนที่บ้าน meepole เคยขายอันนี้จะดีมากเช้นกัน ...ถ้าไม่คิดมากหาได้ทันง่ายดี ให้ใช้กาบมะพร้าวมามัดเป็นทุ่น ท่อนๆเหมือนท่อนขี้ใต้ (แต่กาบมะพร้าวไม่สามารถเก็บ film บางได้นัก แต่จับ crude oil ได้ หรือเอาขุยมะพร้าว มาดัดแปลง..ทั้งสองสามวัสดุที่เสนอนี้จะใช้ได้ผล และสามารถทำลายได้ง่ายกว่าเส้นผมมากมายนัก..ข้อเสนอ by meepole ไม่สงวนความคิดเอาไปบอกต่อได้ ขอให้ทำเถิดจะเกิดผล

ถ้าจะใช้สารเคมีที่ค่อนข้างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อจับและตกตะกอนคราบน้ำมันหลังจากที่กวาดจนเหลือชั้นที่บางลงบ้างแล้ว(1-2 นิ้ว) ให้ใช้ calcium oxide โรยลงไป เชื่อหัว meepole เถอะ

วันอังคารที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

วิถีซิกข์


Harmandir Sahib
วัดทองคำ อยู่ที่เมืองปันจาบ อินเดีย เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของศาสนาซิกข์


วันนี้ meepole ได้ดูเรื่องพื้นที่ชีวิตตอน" วิถีซิกข์" แล้ว "ดี" เขาสัมภาษณ์หลายๆคนที่นับถือซิกข์ ฟังแล้วบอกได้ว่า ดี meepole เองได้รู้เรื่องอะไรๆเพิ่มขึ้น ศาสนาเขาสอนเมตตา และไม่ยึดถือ ลด"ความมีอหังการ์" ไม่อวดเก่ง อวดดี ทุกคนเสมอภาคกัน ไม่แบ่งชนชั้น ที่สำคัญคือเขาไม่มีรูปบูชาใดๆ ไม่มีนักบวช แต่เขาให้เชื่อโดยปฎิบัติตามคำสอนที่มีในพระมหาคัมภีร์คุรุครันถ์ซาฮิบ (เอาแต่กราบไหว้พระพุทธรูป แต่ไม่ศึกษาพระธรรม และไม่ปฎิบัติตามคำสอน ก็ไม่ไช่นับถือศาสนาพุทธอย่างแท้จริง เช่นกัน)

คำว่า "ซิกข์" จะตรงกับคำภาษาบาลีว่า สิกขา หมายถึงการศึกษา ผู้ศึกษาหรือผู้ใฝ่เรียนรู้ กล่าวได้ว่า ซิกข์คือผู้ที่มีความรักศรัทธา เชื่อถือและยึดมั่นใน วาเฮ่คุรุ (พระผู้เป็นเจ้า) และหลักธรรมคำสอนซึ่งเป็นพระศาสโนวาทของพระศาสดาทั้งสิบพระองค์ที่ได้บัญญัติไว้ในพระมหาคัมภีร์ คุรุ ครันธ์ ซาฮิบ

ผู้สัมภาษณ์มีคำถามว่า "เชื่อเรื่องชาติหน้าใหม ?" ผู้ตอบๆได้ดีว่า ศาสนาเขาเชื่อเรื่อง "การเวียนว่ายตายเกิด" (ตามหลักของศาสนาซิกข์นั้น มนุษย์ทุกคนควรจะพยายามอย่างที่สุดเพื่อให้หลุดพ้นจากวัฎจักรของชีวิต หรือการเวียนว่ายตายเกิดนี้ ด้วยการหมั่นระลึกถึงพระเจ้าและสวดมนต์ภาวนา)

ศาสนาซิกข์เชื่อในเรื่องของการกลับชาติมาเกิดใหม่ ชีวิตที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์นั้นถือว่าเป็นขั้นตอนสุดท้ายแล้วในการที่จะมีโอกาสระลึกถึงพระเจ้า แต่การที่มนุษย์จะสามารถเข้าถึงพระเจ้าได้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการกระทำของเขาในชาตินี้

ในศาสนาซิกข์ การที่มนุษย์จะสามารถเข้าถึงพระเจ้าได้นั้น จะต้องตัดกิเลสต่างๆ ทั้งห้าให้หมดสิ้นเสียก่อน กิเลสทั้งห้าประการนี้ คือ ความโลภ ความโกรธ ความหลง ความหยิ่งยโส และความเห็นแก่ตัว มนุษย์ผู้ใดก็ตามที่สามารถละเว้นกิเลสต่างๆ เหล่านี้ได้ ถือว่าเป็นผู้ที่ได้ดำรงชีวิตตามหลักสัจธรรม และได้เข้าถึงพระเจ้าแล้ว

ดังนั้นเมื่อเราได้เกิดมาเป็น มนุษย์ในภพชาตินี้แล้วก็ควรพยายามต่อบุญเพิ่มกุศลสะสมบารมีที่ดีไว้เป็นเสบียง แค่ลงมือทำชาตินี้ก็ได้รับ "ดี" แล้ว


โลกมนุษย์

มนุษยภูมิ เป็นที่อาศัยของสัตว์ผู้มีใจสูงในเชิงกล้าหาญที่จะประกอบกรรมต่างๆ ทั้งที่เป็นกุศลกรรมและอกุศลกรรม แบ่งเป็น 4 จำพวก คือ

1. ผู้มืดมาแล้วมืดไป บุคคลที่เกิดในตระกูลอันต่ำ ยากจน ขัดสน ลำบาก ฝืดเคืองอย่างมากในการหาเลี้ยงชีพ มีปัจจัย 4 อย่างหยาบ เช่น มีอาหารและน้ำน้อย มีเครื่องนุ่งห่มเก่า ร่างกายมอซอ หม่นหมองหรือมีร่างกายไม่สมประกอบ บ้าใบ้ บอด หนวก หาที่นอน ที่อยู่อาศัย ยากรักษาโรค ไม่ใคร่ได้ และเขากลับประพฤติทุจริตทางกาย วาจา ใจเมื่อตายไปย่อมเข้าถึงทุคติอบาย

2. ผู้มืดมาแล้วสว่างไป บุคคลที่เกิดในตระกูลต่ำ ผิวพรรณหยาบ ฯลฯ แต่เขาเป็นคนมีศรัทธา ไม่มีความตระหนี่ เป็นคนมีความดำริประเสริฐ มีใจไม่ฟุ้งซ่าน ย่อมให้ทาน ย่อมลุกรับสมณะชีพราหมณ์ หรือวณิพกอื่นๆ ย่อมสำเหนียกในกริยามารยาทเรียบร้อย ไม่ห้ามคนที่กำลังจะให้ทาน เมื่อตายไปย่อมถึงสุคติโลกสวรรค์

3. ผู้สว่างมาแล้วมืดไป เป็นบุคคลผู้อุบัติเกิดในตระกูลสูง เป็นคนมั่งคั่งมั่งมี มีโภคสมบัติมาก เป็นผู้มีปัจจัย 4 อันประณีต ทั้งเป็นคนรูปร่างสมส่วน สะสวย งดงาม ผิวพรรณดูน่าชม แต่กลับเป็นคนไม่มีศรัทธา ตระหนี่ ไม่มีความเอื้อเฟื้อ กรุณาอาทร มีใจหยาบช้า มักขึ้งโกรธ ย่อมด่า ย่อมบริภาษบุคคลต่างๆ ไม่เว้นแม่กระทั่งมารดาบิดา สมณะชีพราหมณ์ ย่อมห้ามคนที่กำลังให้โภชนาหารแก่คนที่ขอ เมื่อตายไปย่อมเข้าถึงทุคติอบาย

4. ผู้สว่างมาแล้วสว่างไป เป็นบุคคลที่อุบัติเกิดในตระกูลสูง มีผิวพรรณงามและเขาย่อมประพฤติสุจริตทางกาย วาจา ใจ เมื่อตายไปย่อมเข้าถึงสุคติโลกสวรรค์

(http://th.wikipedia.org)

ลองเลือกกันดูว่า..." เรา " ผู้ได้โอกาสดีมากในการมาเกิดในมนุษย์ภูมิครั้งหนึ่งนี้ จะเลือกการใช้ชีวิตแบบใด และคุ้มค่ากับการได้เกิดมาในภพนี้หรือไม่