วันอาทิตย์ที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2556

ให้แล้วไม่ต้องไปยึดติด



มีคำถามที่น้องอจ.ถาม meepole ว่า "อจ.คิดหรือรู้สึกยังไงคะ กับการที่เราให้ของใครแล้วเขาคนนั้นเอาสิ่งของนั้นให้คนอื่นต่อ"

คำถามนี้มีนัย..เรื่องนี้มีเบื้องหลังเพราะ meepole เพิ่งเอาปฏิทินตั้งโต๊ะของท่านพุทธทาสไปแจกน้องอาจารย์ในโปรแกรม แล้วคงจะมีน้องอจ.คนหนึ่ง..คนที่อยากจะไปเที่ยวจีน-ฮ่องกงตอนที่กฟผ.ให้ทุนไปดูงานโรงงานไฟฟ้าแล้ว meepole เป็นคนไปเพราะคิดว่าจะไปเอาความรู้มาทำประโยชน์กับการศึกษาและสังคม (และไม่เคยคิดเรื่องเที่ยวที่นั่น เพราะไม่ไช่ประเทศที่ meepole อยากไป) ส่วนน้องอจ.คนนี้เท่าที่ทราบคือเขาคิดว่า meepole ไปแย่งเขา อันนี้ meepole พอเข้าใจความรู้สึกเขา แต่ไม่อยากโต้แย้ง หรืออธิบายเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องของการทำงานที่ต้องสำนึกหน้าที่เองและทำงานให้คุ้มกับเงินที่ไป ไม่ไช่การไปเที่ยว และหัวหน้าโปรแกรมให้ไป ไม่ได้ทำอะไรที่ข้ามขั้นหรืองุบงิบ เขาก็ไปว่า meepole ลับหลังเสียหายพอสมควร แต่บางประโยคก่อบาปกับตัวเขาเองมากไป และหากจะคิดมากขึ้นถึงกับเรียกได้ว่าเขาเป็นคนอกตัญญู.... เพราะมีหลายเรื่องที่ meepole เคยช่วยเขาไว้ ไม่ให้ถูกพิจารณา...หรือให้เขาใช้ชั่วโมงสอนร่วมโดยเขาไม่ต้องสอนเพราะ meepole ต้องการให้อจ.สิ่งแวดล้อมมี load การสอนมากถึงเกณฑ์ที่จะไม่ต้องเอาอจ.คนใดคนหนึ่งออก เพราะทุกคนเป็นอจ.สัญญาจ้าง ยกเว้น meepole ที่เป็นข้าราชการคนเดียว..(และเขามีโอกาสจะถูกเอาออกมากที่สุดในตอนนั้น ด้วยเรื่องของนศ.ด้วย)

เรื่องที่ได้ยินทุกคนรู้ว่าเขาเป็นคนเช่นใด เพราะน้องสาวเขาเองแท้ๆยังพูดว่าเขาเป็นคนที่ในครอบครัวไม่มีใครเอาด้วยแล้วเพราะเอาใจตัวเองมากไป ความคิดแคบ และ... แต่ในโปรแกรม  meepole บอกทุกคนเสมอว่าให้อยู่แบบพี่น้อง อภัยได้ก็ทำ เข้าใจพื้นฐานเขาก็ให้อภัยกัน..อจ.คนนี้ตอน meepole สัมภาษณ์รับเขามามีคนเตือนแล้ว แต่ meepole คิดว่าคนเราขัดเกลากันได้ และที่สำคัญเขาอ้างการจะมาสอนที่นี่ด้วยต้องการดูแลบุพการี meepole จึงส่งเสริม ส่วนแท้จริงเขาทำหรือไม่ก็เป็นเรื่องของเขา เพราะ meepole ให้โอกาสเขากตัญญู แต่เขาไม่ได้ทำก็อกุศลกรรมของเขา ...

เช่นกันเรื่องการไปดูงานนี้เขาเก็บเอาไปคิดปั้นจนเป็นปมในใจเขา ว่า meepole ไปแย่งโอกาสการไปเที่ยวตปท. เราทั้งสองมีจุดยืนของการไปที่ต่างกันมาก จน meepole ไม่คิดว่าเมื่ออธิบายเขาจะเข้าใจถึงคำว่า"เงินแผ่นดิน" ต้องลงสู่สังคมไม่ไช่ส่วนตัว แต่ meepole ก็ยังคงปฎิบัติกับเขาแบบคนอื่นๆต่อ แต่ตัวเขาเก็บไฟในใจ เมื่อ meepole ให้ของฝากหรือของขวัญเขาก็รับแต่อาจเอาไปให้คนอื่น..ซึ่งน้องๆในโปรแกรมคงทราบและเห็นหลายครั้งจึงแปลกใจและนำมาถามว่า meepole รู้สึกยังไง และรู้แล้วยังคงให้อีก??

คำตอบของ meepole คือ "ไม่เป็นไร ไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะสิ่งของเมื่อเราให้เขาไปแล้วย่อมเป็นสิทธิของผู้รับ จะเอาไปทิ้ง ไปยกให้ใคร หรือวางไว้ตรงนั้นตลอดไปเขาก็ย่อมทำได้ เพราะเมื่อของออกจากมือเราแล้วก็เป็นของของผู้รับเราไม่ต้องไปยึดติดกับของ......ส่วนด้านอารมณ์ยิ่งไม่ต้องไปข้องเกี่ยวเพราะจิตขณะให้เป็นสำคัญ เราให้ด้วยความปรารถนาดี ด้วยเมตตา กรุณา ก็จบ ดีเกิดขึ้นดับเราแล้ว คนรับจะรับด้วยความรู้สึกอะไรเป็นเรื่องเขา ใจเราสำคัญที่สุด และเมื่อเขายอมรับไปแล้วเขาจะรู้สึกไม่ดีเขาก็เป็นทุกข์ เป็นอกุศลจิตของเขาเอง เราไม่ต้องไปรับรู้และที่สำคัญคือเราไม่มีทางจะไปรู้ความคิดของเขาว่าเขาคิดอะไร เขาอาจคิดว่าของที่เราให้เขาดีมากจนเขาอยากแบ่งปันให้คนดีๆคนอื่นได้มี หรือ.. ??" ครั้งต่อไป meepole ก็คงให้อีก จนกว่าวันหนึ่งเขาจะบอกว่า.."อจ.คะ ต่อไปนี้อจ.ไม่ต้องให้ของอะไรหนูอีกนะคะ " ก็จะหยุดให้ หุหุ แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ว่าเขาจะรับหรือไม่ แต่ meepole ก็ให้ได้คือ ให้อภัย แล้วก็จบ :)

เคยอ่านข้อเขียนนี้ของใครคนหนึ่ง meepole เก็บไว้เอามาลงในนี้ให้อ่านกันข้างล่าง


ความผิดบางสิ่ง

ถามว่าใครผิด .. ก็ไม่มีใครผิด

ต่างคนต่างมีเหตุผล แต่ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตหนักหนา จนทำให้ต้องมองหน้ากันไม่ได้


แล้วยังไงต่อดี ???
ทางออกที่ดีอีกทางคือ
การให้อภัยตัวเองพร้อมๆ กับให้อภัยเพื่อนของเรา

ที่ว่าให้อภัยตัวเองก็คือ ให้อภัยที่มองเพื่อนในมุมมองของเราเพียงข้างเดียว

และให้อภัยเพื่อนที่ไม่ได้มองเห็นไปในทางเดียวกับเรา

เพราะที่สุดแล้ว

เราก็ต้องยอมรับในความเป็นตัวตนของแต่ละบุคคล