ทางชีวิต
ทุกปีตั้งแต่เขียนบันทึกใน
blog นี้เมื่อครบปีจะมีการทบทวนบันทึกสิ่งดีๆที่ได้ทำไป
และสิ่งไม่ดีที่ได้ทำไปเพื่อทบทวนตัวเอง อะไรที่ไม่ดีจะพยายามปรับปรุง
แต่บางเรื่องที่ยังแก้ไม่ได้เพราะไม่ถึงเวลา และยังต้องทำ แต่ทำอย่างมีสติ
ก็จะยังคงต้องทำ..อะไรที่ดีก็ทำดีไปเรื่อย ๆ
เพราะชีวิตต้องดำเนินไปด้วยความไม่ประมาท และเป็นประโยชน์ ทุกคนมีเป้าหมายชีวิตของตนเองที่ไม่เหมือนกัน
และในบางช่วงชีวิตอาจมีการหมุนเข็มทิศให้เบนออกไปบ้างตามสภาพแวดล้อม สำหรับ
meepole เกือบสิบปีมาแล้วที่เข็มทิศชีวิตที่ตั้งไว้ไม่เปลี่ยน
และไม่คิดว่าจะต้องเบี่ยงเบนไปทางไหน เส้นทางสงบ เย็น เป็นประโยชน์ เป็นเป้าหมายที่เดินไป
โดยใช้สติเป็นตัวกำกับ เส้นทางนี้ทำให้ชีวิตสงบ แม้บางขณะมีมารมาผจญ
แต่นั่นเป็นสิ่งที่ซือฝูบอกว่ามันคือ “คู่บารมี” ที่ส่งมาเพื่อให้เราได้ฝึก ประเภท
“มารไม่มีบารมีไม่เกิด” ว่างั้นเถอะ หุหุ บางเรื่องเราก็เข้าใจว่าเป็นเพียงวิบากกรรมหรือเศษกรรมที่ไม่ได้เป็นผู้ก่อ
เราจึงไม่ได้มีความรู้สึกอะไรกับการกระทำของมาร “สุขเกษม” ที่มาผจญนัก
นอกจากบางครั้งที่รู้สึกเห็นใจพวกเขาว่าช่างขยันก่อกรรมและต่อกรรมให้ทั้งตัวเขาเองและลูกของเขาเพราะเขาขวางทางบุญใหญ่
แม้ว่าจะทำไม่สำเร็จ แต่กรรมที่เขาก่อโดยที่เราไม่มีจิตที่รู้สึกโกรธเขา แต่สงสารพวกเขาที่ชีวิตพวกเขาอยู่ในกองกิเลส
แล้วมันสะท้อนกลับไปยังผู้นั้นตลอดเวลาอนาคตของพวกเขาถูกกรรมกำหนดโดยกรรมที่พวกเขาเคยก่อไว้กับแม่
จะส่งต่อไปยังลูกเขา หลวงพ่อในป่าบอกไว้ว่า “อนาคตข้างหน้าของพวกเขาน่าสงสารนัก
เมื่อถึงเวลานั้นอกุศลกรรมจะจัดสรรทุกอย่างเอง ...” เพียงแค่คิดก็หนาวแทน
ในชีวิตของทุกคนย่อมมี มาร
คืออุปสรรคต่างๆ มาให้เราต้องสะดุดเสมอ ขอเพียงเรามีความตั้งใจ แน่วแน่
ที่จะดำเนินชีวิตไปในทางที่ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม ทำสิ่งถูกต้อง มีธรรมะเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ
จะไม่มีอะไรมาทำอะไรได้เลย พยายามประคองจิตใจให้ดำเนินชีวิตไปอย่างปกติสุขทุกวัน
มีสิ่งมากระทบ ก็จะไม่กระเทือน รับทุกอย่างที่เข้ามาในชีวิตอย่างเป็นปกติ ยิ่งหากได้มีเวลาฝึกจิตให้วาง
และว่าง ก็จะเป็นผู้ที่ประคองสติให้รู้ตัว รู้เท่าทันและเผชิญกับทุกปัญหาที่เข้ามาอย่างไม่ทุกข์
เพราะจริงๆไม่มีใครทำอะไรเราได้ ตราบเท่าที่เราไม่ทำในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ไม่มีอะไรในโลกนี้ในการที่ได้เกิดมาเป็น
คน/มนุษย์จะสำคัญมากไปกว่าการทำตัวเองให้ดี ทำสิ่งที่ดี และถ่ายทอดความดี แค่นี้ก็คุ้มค่า
แต่หากเกิดมาเพื่อเบียดเบียนเอาแต่ คิด/ทำแต่สิ่งชั่ว
ถ่ายทอดเรื่องชั่วไปยังรุ่นลูก อันนี้ก็น่าสมเพช/น่าสงสารที่ได้เกิดมาเป็นคนเฉพาะร่างกาย
..จริงๆแล้วคนได้ชื่อว่าประเสริฐกว่าสัตว์เดรัจฉานก็เพราะเรารู้ผิดชอบชั่วดี
มีความละอาย สามารถที่จะฝึกตนให้สู่เส้นทางที่มีธรรมะเป็นที่ยึดเหนี่ยวและประคองชีวิต
ปีใหม่นี้ก็ได้แต่หวังว่า
ชีวิตที่เหลือของแต่ละคน ไม่ว่าจะมากหรือน้อย คงตั้งเข็มทิศชีวิตที่เหลืออยู่ไปในเส้นทางที่ถูกต้อง
เพื่อให้ชีวิตที่ดำเนินไปจะได้มีระหว่างทาง/ปลายทางที่ สุข สงบเย็น
เป็นประโยชน์ คุ้มค่าที่เกิดเป็นสัตว์ประเสริฐจริงๆ